|  | 
|  | หัวล้านเบื่อเห็ด ที่มาของ "วันเก้าก๋อง" |  | 
|  | 
ปรับปรุง : 2551-06-07 (วันเก้าค่ำ)
| ศุกร์ที่ตรงกับ 15 ค่ำ ข้อมูลจาก หนังสือพรหมชาติหน้า 482
"การปลงศพขึ้นหรือแรม 15 ค่ำ อย่าพึงกระทำ หมายถึง วันพระ วันธรรมสวนะ ไม่ควรกรทำฌาปนกิจศพ ถ้าตรงกับวันศุกร์ด้วยแล้ว ท่านห้ามไว้เด็ดขาด"
 | 
| หัวล้านเบื่อเห็ด ที่มาของ "วันเก้าก๋อง" ข้อมูลจาก http://www.thainews70.com/news/news-culture-sanon/view.php?topic=208
วันเก้าก๋อง เป็นวันตามความเชื่อวันหนึ่งที่ชาวล้านนาให้ความสำคัญเป็นพิเศษ กล่าวคือ จะไม่มีการเผาศพในวันดังกล่าวเด็ดขาด เพราะเข็ดขยาดกับอาเพศที่เคยเกิดขึ้นในชุมชนมานักต่อนัก
เรื่องราวอันเป็นที่มาของวันดังกล่าว ถูกผูกเป็นนิทานเล่าขานสืบต่อกันมาและพบว่ามีการจารจารึกไว้ในคัมภีร์ใบลาน โดยให้ชื่อเรื่องว่า "หัวล้านเบื่อเห็ด" ซึ่งมีเนื้อเรื่องโดยสังเขปว่า
ครั้งหนึ่ง มีหญิงคนหนึ่ง ชื่อ "นางสัปป๊ะแจ๊ะ" มีนิสัยมักมากในกามารมณ์ นางมีสามีถึง ๗ คน สามีแต่ละคนมีรูปร่างผิวพรรณเหมือนๆ กัน และที่สำคัญมีศีรษะล้านเหมือนกันหมด วันหนึ่งสามีของนางไปหาเห็ดในป่ามาให้นางแกง นางได้แกงให้สามีรับประทานพร้อมกันทั้งเจ็ดคน ส่วนนางไม่ทันได้รับประทานร่วมด้วย หลังอาหารมื้อนั้นสามีของนางเกิดอาการเบื่อเห็ดจึงเสียชีวิตไปพร้อมกัน นางเสียใจเป็นอย่างยิ่งและยิ่งไปกว่านั้น นางรู้สึกกังวลใจเรื่องการจัดการส่งสการ เพราะนางยากจน ไม่มีเงินทองพอที่จะจ้างสัปเหร่อมาเผาศพให้ถึง ๗ คน นางจึงคิดอุบายไปจ้างสัปเหร่อคนหนึ่ง โดยบอกกับสัปเหร่อว่าสามีของนางคนหนึ่งเสียชีวิตลง ก่อนตายสามีกล่าวว่าจะขออยู่กับนางแม้นจะเอาศพไปเผาที่ไหนก็ตาม จะกลับมาอยู่กับนางตลอด จึงขอให้สัปเหร่อเผาศพให้ไหม้สนิทจริงๆ เมื่อเสร็จสิ้นภารกิจจะจ่ายค่าจ้างให้อย่างงาม สัปเหร่อคนนั้นก็รับคำ พร้อมให้คำมั่นสัญญาว่าแม้นศพจะกลับคืนมาก็จะนำไปเผาอีก จะกี่ครั้งก็ตาม ตนจะเผาให้ไหม้อย่างแน่นอน
เมื่อตกลงกันเช่นนั้นแล้ว นางก็นำศพสามีคนแรกมานอนที่ห้องโถงบนเรือน สัปเหร่อจึงแบกศพไปเผาที่ป่าช้า ขณะเดียวกันนั้น นางก็เอาศพสามีคนที่สองมานอนไว้ที่เดียวกันกับศพสามีคนแรก เมื่อสัปเหร่อกลับมาจากป่าช้าเพื่อขอรับค่าจ้าง นางจึงชี้ให้สัปเหร่อดูว่าศพสามีนางกลับมาบ้าน สัปเหร่อเห็นดังนั้นก็เข้าไปดู เห็นว่าเป็นศพคนเดิมเพราะมีรูปร่างหน้าตาเหมือนเดิม ศีรษะก็ล้านตรงตามที่ตนได้รู้เห็น จึงเข้าไปแบกศพไปเผาอีก ขณะนั้นนางได้นำศพสามีคนที่สามออกมานอนแทนที่เดิม และนางก็ทำเช่นนี้จนถึงศพที่เจ็ด สัปเหร่อก็จัดการตามที่ได้สัญญาไว้ โดยเฉพาะศพที่เจ็ด เขาได้เฝ้าดูอย่างใกล้ชิด แล้วเพิ่มท่อนฟืนให้ไฟลุกโชน พร้อมเตรียมท่อนไม้ขนาดเหมาะมือเอาไว้ โดยคิดว่าหากศพลุกขึ้นจากกองเพลิงจะกลับบ้าน ก็จะทุบตีมิให้ออกไปไหน
ขณะที่สัปเหร่อปฏิบัติการอยู่นั้น บังเอิญมีชายคนหนึ่งมีอาชีพเป็นคนเผาถ่านขาย และมีลักษณะรูปร่างหน้าตาตลอดจนมีศีรษะล้านเหมือนศพทั้งเจ็ด กลับมาจากการเผาถ่านจึงมีเนื้อตัวมอมแมมเดินทางผ่านมาทางนั้นพอดี สัปเหร่อเหลือบไปเห็นเข้า ความโกรธแค้นที่คุกรุ่นอยู่ในอารมณ์ทำให้เขาถือไม้ปรี่เข้าไปทำร้ายชายผู้นั้นทันที ด้วยคิดว่าคนเผาถ่านเป็นศพที่คิดจะหนีกลับบ้าน ส่วนคนเผาถ่านเมื่อถูกทำร้ายก็ต่อสู้ป้องกันตนเอง ทั้งคู่ต่อสู้กอดรัดฟัดเหวี่ยงกันเป็นพัลวันจนพลัดตกลงไปในกองเพลิงที่กำลังลุกโชน จึงถูกไฟเผาไหม้ตายทั้งคู่
ดังนั้น ในวันเดียวกันจึงมีผู้เสียชีวิตและถูกไฟเผาพร้อมกันถึง ๙ ศพ คือศพสามีของนางสัปป๊ะแจ๊ะ ๗ ศพ สัปเหร่อหนึ่งศพ และคนเผาถ่านอีกหนึ่งศพเหตุนี้จึงเรียกวันที่เกิดเหตุการณ์ดังกล่าวว่า "วันเก้ากอง" และวันเดียวกันนี้ ตรงกับวันในระบบหนไท คือวันยี
จากนิทานหรือเรื่องเล่าข้างต้น คนโบราณจึงกำหนดเป็นข้อห้ามไว้มิให้เผาศพในวันเก้ากอง ด้วยเชื่อว่าจะทำให้คนตายติดต่อตามกันมามากมาย นอกจากนี้ท่านยังกำหนดอีกว่าแม้วันใดตรงกับวันยี ก็ให้งดเว้นการเผาถ่าน เพราะอาจมีผลให้เสียชีวิตเปล่า ๆ ตามสำนวนที่ว่า "ต๋ายบ่เข้าพริกเข้าเกลือ" คือตายโดยไม่มีเหตุผลพอเพียง เหมือนเช่นคนเผาถ่านที่ต้องมาตายฟรี ๆ โดยไม่รู้อีโหน่อีเหน่อะไร และข้อห้ามที่ว่านี้ ท่านกล่าวเป็นคำคล้องจองกันว่า "วันเก้าก๋องบ่ดีเผาผี วันยีบ่ดีเผาถ่าน" แล้วยึดถือปฏิบัติสืบต่อกันมา.
 โดย อ.สนั่น ธรรมธิ สำนักส่งเสริมศิลปวัฒนธรรม มหาวิทยาลัยเชียงใหม่
 | 
| ความเชื่อคนล้านนา บอกต่อกันมาว่า  วันเก้าก๋องบ่ดีเสียผี  ตำนานเล่ากันว่าดังนี้.... ข้อมูลจาก http://gotoknow.org/blog/nhanphromma/171370
มีหญิงตุ๊กกะต้ะยากจนข้นแค้นคนหนึ่ง รูปงามชื่อว่า นางสัปป๊ะแจ๊ะ   (นางสรรพแฉะ)คือแฉะอยู่ตลอดเวลาว่างั้นเถอะ   นางมีสามี 7 คนด้วยกัน  แต่ละคนมีลักษณะเหมือนกันทุกๆคนดังหลอมหล่อจากเบ้าเดียวกันคือหัวล้านเหมือนกันหมด  ลักษณะผมเผ้ามันเหมือนกันจริงๆจริ๊ง
วันหนึ่งนางไปเก็บเห็ดมาจากป่าเลี้ยงผัว  เมื่อผัวทั้งเจ็ดกินแกงเห็ดพากันตายทั้ง 7คนนอนกองเรียงกันบนเติ๋น(โถงบ้าน) เมื่อเหตุการณ์ขึดเกิดขึ้นดังนั้น   นางจึงบอกกับตัวเองว่าจะเอาเงินที่ไหนมาจ้างสัปเหร่อเผาศพสามีถึง 7คน  ต้องเสียเงินมากมาย  คิดได้แล้วนางจึงรีบลากศพสามี  6  คนไปซ่อนไว้ในห้องเหลือเพียง 1 ศพที่กลางเติ๋น แล้วไปบอกสัปเหร่อว่าต้องเผาศพผัวให้ไหม้เกรียมจริง  เพราะก่อนตายผัวบอกแกว่า   เขารักเมียมากแม้จะเผาที่ไหน ผีเขาก็จะกลับมาอยู่กับเมียตลอดไป   เมื่อเสร็จสิ้นเผาศพสามีแล้วจะเอาเงินค่าจ้างให้
สัปเหร่อจึงรีบแบกศพสามีคนที่หนึ่งไปเผาจนไหม้สิ้นซาก   ส่วนนางสัปป๊ะแจ๊ะก็รีบลากศพผัวคนที่สองมาวางไว้แทนตรงศพที่หนึ่งนอนอยู่   เมื่อสัปเหร่อกลับมาจะเอาเงิน  นางชี้ไปยังศพว่าเห็นไหม? ผัวกลับมาบ้านอีกแล้ว  ให้สัปเหร่อนำเอาศพผัวไปเผาให้หมดจนได้  เมื่อสัปเหร่อแบกศพผัวคนที่สองลงเรือนนางก็ลากศพผัวคนที่สามมาวางแทนที่ศพผัวคนที่สอง   เมื่อสัปเหร่อกลับมานางก็บอกว่าเห็นไหมผัวยังกลับมาบ้านได้อีก   สัปเหร่อดูศพแล้วก็หัวล้านเหมือนคนแรกและคนที่สองก็นึกว่าผัวนางกลับมาจริงๆ จึงแบกศพกลับไปเผาอีก  ส่วนนางก็ลากเอาศพที่สี่  ห้า  หก  เจ็ดมาวางแทนที่ศพก่อนๆ  สัปเหร่อกลับมาเห็นก็ต้องกลับเอาศพไปเผาอีกจนถึงศพที่เจ็ด  สัปเหร่อโกรธมาก เพราะเหนื่อยอ่อนต้องเผาศพตลอดวัน ถึงศพที่เจ็ดจึงเพิ่มฟืนให้มากไฟลุกท่วมศพจนเกรียม  ขณะเดียวกันสัปเหร่อก็เตรียมท่อนฟืนไว้เป็นอาวุธรอทุบหัวผีหากมันฟื้นคืนมาต้องเอากันให้แหลกไปข้าง  อย่าให้ผีมันกลับบ้านหาเมียมันเลย
ขณะนั้นเองมีชายเผาถ่านหน้าตามอมแมมอิดโรยจากการเผาถ่าน ลักษณะหัวล้าน เดินออกมาจากป่าข้างกองไฟเผาผี  สัปเหร่อเห็นคนหัวล้านก็นึกว่าผีผัวคนที่เจ็ดลุกมาจากกองไฟจึงรีบจะเอาท่อนฟืนเข้าตีหัว แต่ชายเผาฟืนเป็นคนมีเจิง(ชั้นเชิง)หลบทันรีบกอดรัดต่อสู้ป้องกันตัวเพราะไม่รู้ว่าทำไมตนเองต้องมาถูกตีถูกทำร้ายเพิ่งเผาถ่านมาแท้ๆ  เวรกรรมรึไง??  อะไร?เอาฟืนมาทุบหัวตู?  บ้าก็บ้าวะ? การต่อสู้กอดรัดกันตกในกองไฟตายตามกันไปทั้งสองคน
เป็นอันว่าวันนั้นกองไฟกองเดียวต้องเผาศพไปทั้งหมดเก้าศพ   โดยมีผัวนางสับป๊ะแจ๊ะ   7 ศพ  สัปเหร่อ 1  ศพ และคนเผาถ่าน(เจ้ากรรมแท้ๆคนล้านนาว่าต๋ายบ่เข้าพริกเข้าเกลื๋อคือตายเปล่าๆปลี้ๆ)อีก  1 ศพ  รวม 9 ศพ  พอดีๆ  คนล้านนาเรียกวันนี้ว่าวันเก้าก๋อง   ห้ามเสียผีหรือเผาศพในวันนี้(เห็นไหม  ใครว่าเลข  9  เป็นเลขมงคล เรื่องนี้อัปมงคลชัดๆ)
เมื่อจะเผาศพคนล้านนาจะไปถามพระ  ปราชญ์เพื่อหามื้อจั๋นวันดี วันเสีย วันจม  การคำนวณหาวันไหนเป็นวันเก้าก๋อง  อันนี้มีตำรา เพราะพื้นฐานมาจากความเชื่อทางล้านนาซึ่งสืบทอดจากตำราพม่า มอญ  ไต  หลากหลายตำราหากเผาผีในวันนี้เชื่อว่าจะทำให้คนตายตามกันมาอีกหลายๆศพ  เรื่องวันเก้าก๋องก็จบลงแลนายเฮย...
 |